การรีวิวครั้งแรกในการได้ลองขับ Tesla model 3 2024 highland
Model 3 ยังไม่ได้ใช้โครงสร้างจากการสร้างใหม่ที่เรียกว่า “mega casting” ที่พวกเรารอคอยอย่างยาวนาน ( ที่มันจะสามารถลด ความซับซ้อนของชิ้นส่วนลง และหวังว่างานประกอบจะเนียบขึ้นกว่าเดิมด้วย ) หรือติดตั้งแบตเตอรี่ใหม่ Tesla 4680 นั้น ในรุ่นเปิดตัวใหม่นี้ยังไม่ได้ใช้แบตรุ่นนี้
-
10
-
User Ratings (1 Votes)
8.8
สารบัญ
รีวิว tesla model 3 ใหม่ Tesla Model 3 Highland เปิดตัวใหม่แล้วทาง Tesla เรียกว่าเวอร์ชั่น Face-Lift ซึ่งทาง Tesla เคลมว่าได้เปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนต่าง ๆ และงานวิศวะกรรม กว่า 50% ของตัวรถยนต์
รุ่นที่อัปเดตของรถยนต์ Model 3 ยังไม่ได้ใช้โครงสร้างจากการสร้างใหม่ที่เรียกว่า “mega casting” ที่พวกเรารอคอยอย่างยาวนาน ( ที่มันจะสามารถลด ความซับซ้อนของชิ้นส่วนลง และหวังว่างานประกอบจะเนียบขึ้นกว่าเดิมด้วย ) หรือติดตั้งแบตเตอรี่ใหม่ Tesla 4680 นั้น ในรุ่นเปิดตัวใหม่นี้ยังไม่ได้ใช้แบตรุ่นนี้ แต่มันใช้พลังงานน้อยลงและมีระยะทางที่มากขึ้นขึ้น ด้วยซอฟต์แวร์ที่อัปเดต และการต้านอากาศที่ดีขึ้นของตัวรถ ลดลงจาก 0.225 Cd เป็น 0.219 Cd
เมื่อได้ลองขับรถ Model 3 รุ่นใหม่ครั้งแรกในออสโล, นอร์เวย์ เพื่อให้ฉันเข้าใจตัวรถมากขึ้นในการขับรถ EV รุ่นใหม่ นี้
หมายเหตุ : บทวิจารณ์นี้ถูกสร้างขึ้นโดย Motor1 Italy เราได้นำมาแปลให้ฟังกันก่อน *ตัวรถจริงในไทยยังไม่มี
ภายนอกที่สวยงามขึ้นไฟหน้าที่ดูเฉียบคมมากขึ้น ก่อนหน้านี้เราจะเห็นรูปภาพที่หลุดโปรเจคโฮลแลนด์ใน internet แต่ตัวจริงที่ออกมาก็คล้ายกับภาพที่หลุดก่อนหน้านี้ ไฟหลังรถไม่แยกเป็น 2 ชิ้นแล้ว แต่เน้นไฟที่ผสมเข้ากับฝากระโปรงทำให้เห็นชัดเจนไฟถอยหลังและไฟหมอกหลังอยู่ในส่วนล่างของบัมเปอร์ แต่ตามความเห็นของ Admin รู้สึกว่าการวางไฟท้าย และตัวหนังสือ Tesla หลังรถนั้นดูลงตัวและดูสมดุลมากกว่ารุ่นเก่าขึ้นมาอีก ( ความเห็นส่วนตัว คิดว่าโฉมนี้ Admin ชอบไฟหน้ามากกว่าของเก่าซึ่งมันดูการออกแบบไฟหน้าไปคล้ายกับ Porche ซึ่งแบบใหม่ดูลงตัวกว่าไม่ไปคล้ายรถกบ แล้ว )
การออกแบบใหม่ทำให้โมเดล 3 ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ความยาว (4720 มิลลิเมตร) ความกว้าง 2089 มิลลิเมตร ความสูง 1441 มิลลิเมตร น้ำหนักเปลี่ยนแปลงตามรุ่น ขึ้นอยู่กับประเภทของแบตเตอรี่และมอเตอร์
สำหรับ Model 3 RWD รุ่นใหม่ มีน้ำำหนัก 1,760 กิโลกรัม และ 1,824 กิโลกรัม สำหรับรุ่น Model 3 Long Range รุ่นใหม่ (รุ่นก่อนหน้านี้มีน้ำหนัก 1,844 กิโลกรัม ) ซึ่งรุ่นใหม่มีน้ำหนักน้อยกว่าเดิมเล็กน้อย
มีสีตัวรถใหม่ที่เรียกว่า : Red ultra (ลึกกว่าสีแดงเดิม) และสีเทาสตีลธรรมดา (เข้มกว่าสีเทาที่มีอยู่)
การออกแบบใหม่ยังมีสมรรถภาพทางอากาศที่ดีขึ้นจาก 0.225 Cd เป็น 0.219 Cd แต่ Model S ยังมีค่าที่ต่ำกว่า0.208 ล้อสามารถเป็นขนาด 19 หรือ 18 นิ้วและมีรถเตี้ยลงเล็กน้อยช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพรวม 5 เปอร์เซ็นต์และ 8 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ
พร้อมระบบความปลอดภัยรถทั้งหมดมีกล้องที่ตรวจจับสภาพแวดล้อมรถและทำงานร่วมกับ Software และ hardward ที่เรียกว่าฮาร์ดแวร์ 4.0 ที่ใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์ใหม่ ทำให้ Ultrasonic Sensors ไม่มีอีกต่อไป
การเก็บเสียง และภายใน รีวิว tesla model 3 ใหม่
การปิดประตูทำให้เสียงเบาลงเล็กน้อย บางส่วนเพราะโครงสร้างเสริมภายในได้รับการปรับเปลี่ยนให้ดีกว่าในการทดสอบการชนด้านข้างของสหรัฐฯ ซึ่งมีมาตรฐานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (เพื่อกระจายแรงกระแทกสองเท่าในกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยพิจารณาถึงความเสี่ยงที่มีรถ SUV มากขึ้นบนท้องถนน)
มีการใช้ กระจกกันเสียง (Acoustic Glass) เพื่อลดเสียงทั้งด้านหน้าและหลังรถ แต่อย่าพึ่งคาดหวังมากว่ามันจะเงียบกว่าเดิมมาก ซึ่งตามความเห็นแล้ว มันลดลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากวิ่ง เกิน 120 แล้วมันก็ยังคงมีเสียงรบกวนเข้ามา เช่น เดิม หากหวังว่ามันจะเงียบระดับ BMW Series 3 นั้น ยังไม่ถึงขั้นนั้น ภายในมีไฟ ambient light แล้ว คันเกียร์ทางด้านขวาก็หายไป ซึ่งถูกแทนที่ด้วยแถบเลื่อนบนหน้าจอดิจิตอล แทน
จอหน้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 15.4 นิ้ว จากเดิมที่ขนาดเป็น 15.0
ระบบเสียงที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นมีลำโพง 14 ตัวเป็น 17 ตัว และมีแอมพลิฟายเออร์ใหม่และซอฟต์แวร์การจัดการที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่เพียงปรับปรุงการฟังเพลง แต่ยังรวมถึงการโทรแบบแฮนด์ฟรีด้วย ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณการมีไมโครโฟนสองตัวในห้องโดยสาร ซึ่งมีเสียงที่ดีขึ้้นกว่ารุ่นเก่า
ที่นั่งหลังมีการเบาะมีการเอียงขึ้นเล็กน้อย ที่นั่งหน้าและหลังมีระบบระบายอากาศที่เรียกว่า Ventilated Seats
ผู้โดยสารที่นั่งหลังจะได้รับหน้าจอขนาด 8.0 นิ้วเพื่อปรับควบคุมอุณหภูมิและเพลงสำหรับระบบเสียงหลังใหม่ซึ่งได้รับการแยกออกจากผู้โดยสารคนอื่น เพื่อไม่รบกวนพวกเขา ผู้โดยสารที่นั่งหลังยังสามารถดู YouTube, Netflix และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่นๆ บนหน้าจอนี้ได้ และมีพอร์ต USB-C ขนาด 65 วัตต์สองช่องที่สามารถชาร์จเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กได้สองเครื่อง
พวงมาลัยที่ออกแบบใหม่มีการตอบสนองที่ดีกว่าใน Tesla Model S และ Tesla Model X
การขับและการรับรู้ถึงช่วงล่างแบบใหม่ tesla model 3 highland เพื่อที่จะได้รับความรู้สึกได้ดีขึ้นของเจ้า Model 3 รุ่นใหม่ ทาง Tesla แนะนำให้ฉันขับรุ่น Model 3 รุ่นเก่าก่อนที่จะขับมาขับรุ่น และเพียงในไม่กิโลแรก ที่ขับรถผ่านฝาปิดท่อประปาและจุดความเร็วสูง คุณสามารถรู้สึกได้ว่าระบบดูดซับแรงกระแทกได้ดีกว่าเดิม การตอบสนองของพวงมาลัยนั้นดีกว่าเดิมมากในการเปลี่ยนเลน แต่การขับขี่รู้สึกเป็นนุ่มนวลมากขึ้น กระชับ และแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิม
การปรับแต่งใหม่สำหรับสปริงและโช้คอดัมเปอร์ โมเดล 3 รุ่น 2024 ทำให้ผู้โดยสารได้รับแรงกระแทกน้อยกว่าเดิม จากภายนอก ซึ่งเพิ่มการลดเสียงในระหว่างการเดินทางได้ดีกว่าเดิม
ยาง Michelin บนรถทดสอบเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรถ Tesla Model 3 รุ่นใหม่ ไม่เพียงเพื่อลดแรงกระแทกในระหว่างที่ขับแต่ยังเพื่อดูดซับความ ผิดปกติของถนน ได้ดี เพื่อให้ความสุขในการขับขี่ของ Model 3 ใหม่นี้ดีกว่าเดิม
โมเดล 3 รุ่นที่ออกแบบใหม่ยังใช้้ชุดเบรกจากโมเดลเก่า เหมือนเดิม รวมถึงแบตเตอรี่ ด้วยที่ยังเหมือนเดิมกับรุ่นก่อน
โดยรวมแล้วประทับใจมากกว่ารุ่นเดิม ซึ่งในการขับในระยะทางไม่กี่กิโลทำให้รู้ได้ว่าอาการรถนั้น ดูดซับแรงกระแทก บนถนนนในรูปแบบต่างๆ ได้ดีกว่ารุ่นก่อน
ระยะทางการวิ่งนั้น วิ่งได้ไกลกว่าเดิมเพียงเล็กน้อยเนื่องจาก แบตยังคงเป็นตัวเดิมและมีขนาดเท่าเดิมซึ่งส่วนนี้ เพิ่มขึ้น 5 – 8% เท่านั้น โดยรวมแล้วหากวิ่งราวๆ 120 ตีว่าวิ่งได้ราวๆ 400km ขึ้นไป
บทสรุป tesla model 3 ใหม่ แพงกว่าเล็กน้อย แต่ดีกว่ามาก
การเปิดตัว Tesla Model 3 ในปี 2016 ด้วยคำมั่นสัญญาว่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 35,000 ดอลลาร์ ราว 1,260,000 บาท ซึ่งต้องการให้คนทั่วไปได้ใช้ ซึ่งวันนี้มีการ Update ครั้งใหญ่โดยภาพรวมแล้วคุ้มค่า คุ้มราคากว่าเดิม ถึงแม้จะมีราคาแพงขึ้นเล็กน้อย แต่ทุกอย่างกลับถูกพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมทุกอย่าง และทีมงานยังมั่นใจว่า ทุกอย่างที่เพิ่มเติม และใส่ มาจะยกคุณภาพการขับขี่ได้ดีกว่ารุ่น ก่อนให้แก่ผู้ที่ได้ขับมันอย่างแน่นอน
* ในบทความ Admin มีการเพิ่มความเห็นจากการดู Video ใน youtuber จากต่างประเทศหลายช่องลงไปด้วย ข้อมูลจึงไม่ได้ตรงจากบทความต้นฉบับที่แปล แบบเปะๆ นะครับ ขอบคุณที่ทนอ่านกันมาถึงตรงนี้ ไว้เราจะนำบทความดีๆ มาให้อ่านกันอีกนะครับ
Tesla Model 3 รุ่นแรกเปิดตัวเมื่อปี 2017 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าครมขนาดกลางที่ได้รับความนิยมมากในท้องตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขณะนั้นและยังคงเป็นที่นิยมในปัจจุบันด้วยความประหยัดพลังงานและความสะดวกสบายในการใช้งาน
-
การขับขี่ไฟฟ้า: เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบสมบูรณ์ซึ่งหมายความว่ามันใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพื่อขับเคลื่อน. รุ่นแรกมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่มีความจุต่างกันไปตามรุ่น แต่มากที่สุดคือรุ่น Long Range ที่มีความจุแบตเตอรี่ประมาณ 75 kWh ในรุ่นยูโรปมาตรฐาน ระยะทางขับขี่จริงๆ อาจแตกต่างกันไปตามเงื่อนไขการขับขี่และการใช้งาน.
-
ประหยัดพลังงาน: รุ่นแรกมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูง และมีความสามารถในการชาร์จจากเครื่องชาร์จได้หลายวิธี เช่น ด้วย Supercharger ของ Tesla, ชาร์จ EV ทั่วไป, หรือจากพื้นที่ชาร์จสาธารณะที่มีทั่วโลก.
-
ประสิทธิภาพขับขี่: Tesla Model 3 รุ่นแรกมาพร้อมกับความสามารถในการเร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลาสั้นมากและมีการควบคุมการขับขี่อัตโนมัติที่ช่วยให้คุณควบคุมรถอย่างมีประสิทธิภาพในการขับขี่ทางหลวงและในที่จอดรถ.
-
การออกแบบ: มีการออกแบบที่หรูหราและงดงามที่มีพื้นที่สำหรับผู้โดยสาร 5 ที่นั่ง พร้อมหน้าจอควบคุมที่ใหญ่และใช้งานง่าย.
-
ความปลอดภัย: มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและการช่วยเหลือในการขับขี่อย่าง Autopilot, ซึ่งมีความสามารถในการควบคุมความเร็วและรักษาเลนที่ถูกติดตั้งในหลายส่วนของทางหลวง.